วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

หลักเกณฑ์ในการเลือกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

เลือกผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตรายไหนดี?

คงจะมีหลายคนที่กำลังตัดสินใจว่า จะเลือกใช้บริการอินเตอร์เน็ตกับเจ้าไหนดี เพราะมันคงจะเปลี่ยนแปลงกันไม่ได้บ่อยๆ ไหนๆ ก็จะเลือกซื้อแล้วก็ขอแบบที่ดีที่สุดก็แล้วกัน

เลือกผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตรายไหนดี?

รู้จัก ISP หรือ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต คืออะไร

ผู้ ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ Internet Service Provider คือ หน่วยงานที่บริการให้เชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของบริษัท เข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

ใน ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ หน่วยงานราชการหรือสถาบันการศึกษา กับบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ทั่วไป

ISP ที่เป็นหน่วยงานราชการ หรือสถาบันการศึกษา มักจะเป็นการให้บริการฟรีสำหรับสมาชิกขององค์การเท่านั้น แต่สำหรับ ISP ประเภทที่ให้บริการในเชิงพาณิชย์ ผู้ใช้ที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะต้องสมัครเข้าเป็นสมาชิกของ ISP รายนั้นๆ ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งอัตราค่าบริการจะขึ้นอยู่กับ ISP แต่ละราย

ข้อดีสำหรับผู้ใช้ บริการอินเทอร์เน็ตในเชิงพาณิชย์ก็คือ การให้บริการที่มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรองรับกับความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน มีทั้งรูปแบบส่วนบุคคล ซึ่งจะให้บริการกับประชาชนทั่วไปที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต และบริการในรูปแบบขององค์กร หรือบริษัท ซึ่งให้บริการกับบริษัทห้างร้าน หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการให้พนักงานในองค์กรได้ใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ISP จะเป็นเสมือนตัวแทนของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ถ้าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต้องการข้อมูลอะไรก็สามารถติดต่อผ่าน ISP ได้ทุกเวลา โดยวิธีการสมัครสมาชิกนั้น เราสามารถโทรศัพท์ติดต่อไปยัง ISP ที่ให้บริการต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกรับบริการได้ 2 วิธี คือ ซื้อชุดอินเทอร์เน็ตสำเร็จรูปตามร้านทั่วไปมาใช้ และสมัครเป็นสมาชิกรายเดือน โดยใช้วิธีการติดต่อเข้าไปยัง ISP โดยตรง ซึ่งวิธีการ และรายละเอียดในการให้บริการของแต่ละที่นั้นจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบการให้บริการของ ISP รายนั้น ๆ จะกำหนด

ในการเลือก ISP นั้น ต้องพิจารณาความเหมาะสมในการใช้งานของเราเป็นหลัก โดยมีหลักในการพิจารณาหลายอย่างด้วยกัน เช่น ความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตว่ามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ หรือไม่ ดำเนินธุรกิจด้านนี้มากี่ปี มีสมาชิกใช้บริการมากน้อยขนาดไหน มีการขยายสาขาเพื่อให้บริการไปยังต่างจังหวัดหรือไม่ มีการลงทุนที่จะพัฒนาการให้บริการมากน้อยเพียงใด เป็นต้น

ประสิทธิภาพ ของตัวระบบ ก็เป็นส่วนสำคัญที่เราจำเป็นต้องพิจารณาด้วย เช่น ความเร็วในการรับ/ส่ง สม่ำเสมอหรือไม่ (บางครั้งเร็วบางครั้งช้ามาก) สายโทรศัพท์ต้นทางหลุดบ่อยหรือไม่ หรือในบางกรณีที่เรากำลังถ่ายโอนข้อมูล มายังเครื่องคอมพิวเตอร์ปรากฏว่าใช้งานไม่ได้ การเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศ ไปที่ใดบ้างด้วยความเร็วเท่าไหร่ และการเชื่อมต่อกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศเป็นอย่างไร มีสายสัญญาณหลักที่เร็ว หรือมีประสิทธิภาพสูงมากเพียงใด เพราะปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อความเร็วในการใช้อินเทอร์เน็ตด้วย

บริการ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งาน Technician Support นี่ก็เป็นส่วนสำคัญที่เราควรจะต้องพิจารณา เพราะหากการใช้บริการของเรามีปัญหา เราจะได้มั่นใจว่าทาง ISP จะมีการดูแลแก้ไขให้ได้อย่างทันท่วงที และเราจะสามารถสอบถามการบริการใหม่ๆได้อยู่เสมอ รวมถึงบริการเสริมต่างๆก็เป็นสิ่งที่เราควรจะต้องพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน

ค่า บริการรายเดือน ก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเลือกผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ค่าบริการรายเดือนจะถูกกำหนดตามชั่วโมงของการใช้งาน จำนวนชั่วโมงในการใช้งานยิ่งมากเท่าไหร่ ก็จะเสียค่า บริการเพิ่มมมากขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาที่ค่าธรรมเนียมแรกเข้าด้วย เพราะบาง ISP จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า แต่บาง ISP จะไม่มีการเรียกเก็บ

Link เป็นส่วนสำคัญที่เราจะต้องใช้ในการท่องอินเทอร์เน็ต เราควรตรวจสอบโมเด็มที่เราใช้งานอยู่ว่าเป็นโมเด็มแบบใดรองรับกับ ISP หรือเปล่าเนื่องจากโมเด็มมีมาตรฐานหลายแบบ ดังนั้น ควรตรวจสอบดูว่า ISPนั้นๆ สามารถรองรับโมเด็มของเราได้หรือไม่ ทั้งในด้านความเร็วและมาตรฐานต่างๆ เพราะ ISP แต่ละรายการจะมีหมายเลขโทรศัพท์หลายหมายเลขด้วยกัน ซึ่งแต่ละหมายเลขจะใช้สำหรับโมเด็มที่มีความเร็วและมาตรฐานที่แตกต่างกัน

ปัจจัยสุดท้ายในการพิจารณาคือพิจารณาเกี่ยวกับเส้นทางเครือข่าย ด้วย
โดย พิจารณาว่าผู้ให้บริการรายนั้น ๆ เกี่ยวกับเส้นทางเครือข่ายว่ามีเส้นทางและขนาดมากน้อยเพียงใดและอาจตรวงสอบ ข้อมูลเชิงลึกของผู้ให้บริการเพื่อประกอบการพิจารณาโดยสามารถดูได้จาก เว็ปไซด์ของสำนักงานกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือNTC

เมื่อเราได้ พิจารณาผู้ให้บริการแล้วก็ถึงคราวที่จะต้องตัดสินใจเลือกแล้วละครับ ทั้งนี้ก็อย่าลืมไปสืบข่าวจากวงการในพื้นที่ว่าการให้บริการในพื้นที่เป็น อย่างไร จะได้ไม่ต้องมาช้ำใจเอาภายหลังว่าบริการไม่ดี เพราะถึงตอนนั้นก็สายไปเสียแล้วเพราะต้องใช้บริการให้ครบตามสัญญา


การเลือกซื้ออินเตอร์เน็ต
ความเร็วของอินเตอร์เน็ตเท่าไหร่ดี
ปัจจุบัน มีบริษัทที่ให้บริการอินเตอรืเน็ต หรือทีเราเรียกว่า ISP (Internet Service Provider) หลายบริษัท และมีการทำประชาสัมพันธ์ ทำโปรโมชั่นกันมากมาย หลายๆ คนอาจสับสนว่า เราจะเลือกซื้อความเร็วของอินเตอร์เน็ตอย่างไร และบริการที่ทาง ISP ให้มีอะไรบ้าง


บริการการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของ ISP มีดังนี้
Dial-up Connection เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตบางอุปกรณ์ที่เรียกว่า Modem จุดอ่อนของระบบ Dial-up คือ
- เชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์
- เวลาใช้งานจะเสียครั้งละ 3 บาท (ค่าโทรศัพท์)
- ระหว่างการใช้งาน จะไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้
- ความเร็วสูงสุดในการเชื่อมต่อคือ 56 KBPS (สวนใหญ่ก็จะได้ไม่ถึงด้วย)

ADSL Modem เป็นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบความเร็วสูง (สูงขึ้น)
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่เรียกว่า Router Modem ผ่านสายโทรศัพท์
- สามารถเลือกซื้อความเร็วได้ตามความต้องการ
- ระหว่างใช้งานอินเตอร์เน็ต สามารถใช้โทรศัพท์พร้อมกันได้

Leased Line สำหรับองค์กร ธุรกิจขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ (ราคาแพงมาก แต่มีเสถียรมากเช่นกัน)

อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband)
ปัจจุบัน Broadband เป็นบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่นิยมใช้งานกันตามบ้าน เราสามารถเลือกบริการอินเตอร์เน็ต แบบ Wire (สาย) และ Wireless (ไร้สาย) ได้ สำหรับความเร็วในการเลือกซื้อและต้องศึกษาให้เข้าใจมีดังนี้

ความหมายของตัวเลขของความเร็วอินเตอร์เน็ต (ตัวอย่าง 256/128kbps)
- ตัวเลข 256 ชุดแรกหมายถึง ความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ภายในประเทศ
- ตัวเลข 128 ชุดหลังหมายถึง ความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างประเทศ

ดัง นั้น การเลือกซื้อต้องพิจารณาว่า เราจำเป็นต้องใช้งานอินเตอร์เน็ตภายในประเทศ หรือต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้จะได้เลือก pakcage ได้ถูกต้อง สำหรับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพื่อเข้าเว็บและเช็คเมลเป็นบางครั้ง ความเร็วที่เหมาะสมและสามารถใช้งานได้ดี อยู่ที่ 1 MB/256 kbps ก็เพียงพอแล้ว

แต่ถ้าเน้นเล่นเกมส์ออนไลน์ภายในประเทศ สามารถเลือกอินเตอร์เน็ตความเร็วในตัวเลขชุดแรกสูงขึ้น เช่น 4MB/256 KBPS เป็นต้น

ทิป เรื่องน่ารู้ที่ต้องรู้ ความเร็วอินเตอร์เน็ตที่ทางบริษัท ISP พูดถึงนั้น เป็นความเร็วที่มีการแชร์กับผู้ใช้งานคนอื่นๆ ด้วย ดังนั้นในบางเวลา ความเร็วที่ได้อาจไม่คงที่ ดังนั้น ถ้าเราต้องการความเร็วที่ดี คงที่ สม่ำเสมอ เราจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย

การเลือกซื้อ Router, ADSL Modem

อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงกับ Router
สำหรับ ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตปัจจุบัน น้อยคนที่ยังคงใช้การเชือมต่อแบบ Dial-up หรือโมเด็มธรรมดาที่มีความเร็วสูงสุดไม่เกิน 56 Kbps และด้วยข้อจำกัดหลายๆ ประการ ไม่ว่าระหว่างการเชื่อมต่อจะไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ หรือด้วยข้อจำกัดทางความเร็ว มาวันนี้เราคงต้องพูดถึงแต่ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (ตามบ้าน) ด้วยการเชื่อมต่อแบบ ADSL

Router กับ ADSL
คง ต้องทำความเข้าใจกันสักนิดก่อนว่า เวลาเราจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตควาเร็วสูงด้วย ADSL เราจำเป็นจะต้องมี ADSL Modem เป็นอันดับแรก เพราะอุปกรณ์ตัวนี้จะใช้เชื่อมสัญญาณผ่านสายโทรศัพท์ไปยังผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น TOT, TRUE, KSC หรือ CS-Loxinfo และอื่นๆ อีกมากมาย

Router คืออะไร
เป็น อุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายอย่างหนึ่ง สำหรับความหมายตรงของคำว่า Route ก็คือ ถนน นั่นเอง การเชื่อมต่อด้วย Router ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ได้มากกว่าหนึ่งเครื่องในเวลาเดียวกัน โดยปกติ การเลือกซื้อ Router จะเลือกซื้อที่มี Port LAN อยู่ 4 Ports และที่สำคัญควรเลือกซื้อ Router ทีมีความสามารถในการเป็น Modem ด้วย จะได้ไม่ต้องต่ออุปกรณ์หลายๆ ชิ้น

คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Router
- ทำหน้าที่คล้าย Swich ทำให้เชื่อมต่อได้หลายเครื่องพร้อมกัน
- บางรุ่นรองรับการทำงาน Wire หรือ Wireless (เลือกให้ดี)
- ADSL Modem ในตัว (แล้วแต่รุ่น ต้องดูให้ดีๆ)
- Firewall /IPsec VPN (รองรับการเชื่อมต่อทางไกลแบบมี security)
- Antivirus (รุ่นใหม่ๆ ของ Router จะมีโปรแกรม Antivirus ฝังอยู่ด้วย)

สรุปประเภทของ Router
บางรุ่นเป็น Router อย่างเดียว ไม่มี ADSL Modem
บางรุ่นเป็นทั้ง Router และ ADSL Modem
บางรุ่นเป็นทั้ง Router และ ADSL Modem แถมมี Antivirus มาด้วย
บางรุ่นเป็น Router แต่เป็นประเภท Wireless
บางรุ่นเป็น Router แต่เป็นประเภท?Wire
ทางเลือกที่น่าสนใจคือ บางรุ่นเป็นทั้ง Router + ADSL Modem + Antivirus จะเป็นแบบ Wire & Wireless ก็ได้ แล้วแต่ความพอใจ


สำหรับ การเลือกซื้อ Router นี้ เนื่องจากมีความหลากหลายพอสมควร ดังนั้นการเลือกซื้อ คงต้องระวังให้ดีและที่สำคัญที่น่าสนใจและเพิ่งมีใน Router ADSL ก็คือความสามารถในการป้องกันไวรัส ซึ่งผมเห็นว่าเป็นจุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเลือกรุ่นที่มี Antivirus แล้ว เราก็ยังคงจำเป็นต้องมีโปรแกรม Antivirus ติดตั้งในคอมพิวเตอร์ของเราเช่นเดิมน่ะครับ..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น